Anti-Mage
Anti-Mage
ระยะประชิด ตัวแคร์รี่ ตัวหนี ตัวดัน ตัวนูค
ค่าสถานะ
Str 22 + 1.5 ต่อเลเวล
Agi 22 + 2.8 ต่อเลเวล
Int 15 + 1.8 ต่อเลเวล
พลังโจมตี 49 - 53 ความเร็วในการโจมตี 1.45 ระยะโจมตีประชิด 150
ช่วงเวลาแสดงการโจมตี 0.3 + 0.6
พลังป้องกัน 2.1 ความต้านทานเวทมนตร์ 25%
การเคลื่อนที่ 315 อัตราหมุนตัว 0.5
ระยะมองเห็น กลางวัน กลางคืน 1800 / 800
Talent Tree
คูลดาวน์ Mana Void - 50 วินาที 25 Agility + 25
ค่าสถานะทั้งหมด + 10 20 อัตราการหลบหลีก 15%
คูลดาวน์ Blink - 1 วินาที 15 ความเร็วในการโจมตี + 20
พลังโจมตี + 20 10 พลังชีวิต + 150
สกิล
Mana Break
เผาผลาญมานาของศัตรูในการโจมตีแต่ละครั้ง Mana Break จะสร้างความเสียหายแก่เป้าหมายโดยคิดจากมานา 60% ที่ถูกเผาผลาญ Mana Break เปลี่ยนการโจมตีแบพิเศษและไม่สามารถใช้ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงการโจมตีเป็นแบบพิเศษอื่นๆได้
ประเภทสกิล : ติดตัว
ประเภทความเสียหาย : กายภาพ
ทะลุการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์ : ไม่ได้
มานาที่ถูกเผาผลาญต่อครั้ง : 28 / 40 / 52 / 64
Blink
การเคลื่อนย้ายในระยะสั้นๆ ซึ่งทำให้ Anti-Mage สามารถเข้าและออกการต่อสู้ได้อย่างอิสระ
ประเภทสกิล : ตำแหน่งเป้าหมาย
ระยะทาง : 925 / 1000 / 1075 / 1150
มานาที่ใช้ : 60
คูลดาวน์ : 12 / 9 / 7 / 5
Spell Shield
เพิ่มความต้านทานความเสียหายเวทมนตร์ให้แก่ Anti-Mage อัปเกรดได้ด้วย Aghanim's Scepter
ประเภทสกิล : ติดตัว
ความต้านทานเวทมนตร์ : 26% / 34% / 42% / 50%
Mana Void
สำหรับทุกหน่วยของนามาที่หายไปจาากยูนิตเป้าหมายจะสร้างความเสียหายแก่ยูนิตนั้นและศัตรูรอบข้าง เป้าหมายหลักจะถูกมินิสตั้นด้วย
ประเภทสกิล : ยูนิตเป้าหมาย
ส่งผลต่อ : ยูนิตฝ่ายศัตรู
ประเภทความเสียหายสกิล : เวทมนตร์
ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์ : ได้
ความเสียหาย : 0.6 / 0.85 / 1.1
ระยะเวลาสตั้น : 0.3
รัศมี : 500
มานาที่ใช้ : 125 / 200 / 275
คูลดาวน์ : 70
แนวทางการอัพสกิล
[สามารถเปลี่ยนรูปแบบการอัพได้โดยขึ้นอยู่กับรูปเกมส์]
การเล่นพื้นฐาน
Anti-Mage จัดเป็น Hard Carry ที่มีสกิลเน้นไปทางการไล่ฆ่าซัพพอร์ต และ จัดการกับ Hard Carry สาย Int โดยเฉพาะ เนื่องจากสกิลของ Anti-mage จะเน้นไปทางจัดการกับมานาของฮีโร่ศัตรู และยังมีสกิลเอาตัวรอดอย่าง Blink ที่สามารถทำให้ เข้าและออกจากสถานการณ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว บวกกับสกิลติดตัว อย่าง Spell Shield ที่ทำให้ทนทานต่อสกิล เวทมนตร์ทุกชนิด สุดท้าย Ultimate skill ที่ทำความเสียหายตามจำนวน Mana ที่สูญเสียไป
เทคนิคการเล่น
ในช่วงต้นเกมส์ Anti-mage จะอ่อนแอมาก จึงจำเป็นต้องมีซัพพอร์ตคอยช่วยเหลือในการยืนเลน ส่วนหน้าที่หลักให้โฟกัสไปที่การ Last creep กับการ deny creep เป็นหลัก และการคลุมครีปภายในเลน ไม่ให้ครีปวิ่งเข้าใกล้ระยะโจมตีของป้อมหรือศัตรูเกินไป เพราะจะยากต่อการ Last hit โดยในส่วนของไอเท็มจะออกเป็น Power Treads / Perseverance / Poor Man's Shield เพื่อมาช่วยเสริมพลังป้องกันและอัตราการฟื้นฟูพลังชีวิตช่วงแรก
ช่วงกลางเกมส์ 20 - 35 นาที
หลังจากผ่านช่วง 15 นาที โดยส่วนมากจะฟาร์มได้ไอเท็ม Power treads กับ Battle fury ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ไม่ควรเกิน 18 นาที สำหรับไอเท็มสองชิ้นนี้ เราอาจจะขึ้นไอเท็มชิ้นที่สามเป็น Vladmir's offering เพื่อช่วยเสริมในเรื่องการดันเลน หรืออาจจะเปลี่ยนไอเท็มชิ้นที่สามเป็น Manta Style แทน Vladmir's offering เพื่อมาช่วยในจังหวะติดสถานะ Silences ในช่วงที่เราดันเลน พร้อมทั้งยังสามารถนำมาใช้ช่วยในบางจังหว่ะที่ทีมขาดดาเมจจาก Team-Fight โดยรวมหน้าที่หลักในช่วง 15-30 นาที คือการดันเลนและคอยวาร์ปซ้อนในช่วงที่ทีมต้องการดาเมจเสริมในช่วง Team-Fight
ช่วงท้ายเกมส์ 35 นาทีเป็นต้นไป
ในช่วงเวลาท้ายเกมส์จะเป็นช่วงที่ Anti-mage แข็งแกร่งที่สุด เพราะสามารถ Solo kill ศัตรูได้ค่อนข้างง่าย เนื่องจากไอเท็มในช่วงท้ายเกมส์ จะเป็น Butterfly และ Abyssal blade ที่ทำให้ไล่ฆ่าได้ง่าย โดยรวมแล้วหน้าที่หลักในช่วงท้ายเกมส์คือทำหน้าที่เป็นตัวดาเมจใน Team -Fight ให้เพื่อนและคอยดันเลนพังบาร์แร็ค
เทคนิคการ Blink
เทคนิคการ Blink
1.เทคนิคการใช้ Blink ในการหลบหนีควร Blink ไปในจุดอับที่ไม่สามารถเดินตามเข้ามาได้เพื่อใช้ Blink ในจังหวะที่สองหนี หรืออาจจะใช้ Teleport เพื่อหนีในจังหว่ะที่ Blink ไปในจุดอับ
2.ใช้ Blink ในการต่อสู้ Team-Fight ควรมองหาซัพพอร์ตศัตรูที่อยู่ในแนวหลังเป็นหลัก เพราะการที่ใช้ Blink ไปในจุดใจกลาง Team-Fight อาจตกเป็นเป้าให้กับซัพพอร์ต หรือแครี่ศัตรูที่มีสกิลหยุดได้
การเลือกอัพ Talent
Level 10
- ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ เราอาจจะเลือก พลังโจมตี + 20 เพื่อมาช่วยเรื่องการฟาร์มและดันเลนให้เร็วยิ่งขึ้น
- ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบหรือเกิดการปะทะบ่อย ควรเลือก พลังชีวิต + 150
Level 15
- ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ เราอาจจะเลือก เพิ่มความเร็วในการโจมตี + 20 เพื่อมาช่วยเรื่องการฟาร์มและดันเลนให้เร็วยิ่งขึ้น
- ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบหรือเกิดการปะทะบ่อย ควรเลือก ลดคูลดาวน์ Blink 1 วินาที
- ใน Talent level 15 นี้ถ้ามองในระยะยาว การเลือก ลดคูลดาวน์ Blink 1 วินาที จะมีประโยชน์ในระยะยาวมากกว่า
Level 20
- ในสถานการณ์ที่เกิดการปะทะบ่อยแล้วฮีโร่ศัตรูเน้นการโจมตีแบบกายภาพ (Physical) แนะนำให้เลือก อัตราการหลบหลีก 15%
- ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบ หรือ กึ่งได้เปรียบกึ่งเสียเปรียบ แนะนำเลือก ค่าสถานะทั้งหมด + 10
Level 25
- ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบหรือฮีโร่ศัตรูใช้มานาในการต่อสู้เป็นหลัก 3 ตัวขึ้นไป ควรเลือก ลดคูลดาวน์ Mana void 50 วินาทีเพื่อฆ่าศัตรูให้ไวที่สุด
- ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบหรือฮีโร่ศัตรูไม่เน้นมานาในการต่อสู้เป็นหลัก แนะนำให้เลือก เพิ่มค่า Agility + 25
จุดเด่น
1.แข็งแกร่งมากในช่วงท้ายเกมส์
2.หลบหนีจากการต่อสู้ได้ หรือจากการโดน Gank ได้ง่าย
3.ทนทานต่อสกิลเวทมนตร์
4.กดดันเลนได้ดีกับฮีโร่ศัตรูที่ต้องใช้มานาในการยืนเลนช่วงต้นเกมส์
5.ป่วนซัพพอร์ตในแนวหลัง Team-Fight ได้ดี
6.รับมือกับซัพพอร์ตหรือแคร์รี่ที่ใช้มานาในการต่อสู้เป็นหลักได้ดี
จุดด้อย
1.เลือดน้อย และ เปราะบางในช่วงต้นเกมส์
2.ต้องการพื้นที่และเวลาในการฟาร์มมาก
3.ไม่มีสกิลหยุดการเคลื่อนที่ศัตรูในจังหวะไล่ฆ่า
4.ต้องการไอเท็มหลัก 3-4 ชิ้น ถึงจะสามารถไล่ฆ่าหรือต่อสู้ใน Team-Fight ได้
5.มักจะถูกกดดันเลนจากฝั่งตรงข้ามด้วย Tri-lane
6.รับมือกับฮีโร่ที่มีสกิลในการเปิดมุมมองได้ยาก
Item
Item ยืนเลนช่วงต้นเกมส์
Item หลัก กลางเกมส์
Item ช่วงท้ายเกมส์
Item ตามสถานการณ์
Item เสริม
Aghanim's Scepter เป็นไอเท็มที่ Anti-mage ควรออกในรูปเกมส์ที่ฮีโร่ศัตรูมีสกิลล็อคเป้า (Target) ค่อนข้างเยอะ โดยการทำงาน Aghanim's Scepter จะทำให้สกิล Spell Shield สามารถสะท้อนสกิลประเภทล็อคเป้าจากศัตรูไปยังศัตรูที่ใช้เอง โดยมีคูลดาวน์ อยู่ที่ 12 วินาที
Linken's Sphere เป็นไอเท็มที่ควรออกในกรณีที่ฮีโร่ศัตรูมีสกิลในรูปแบบ หยุดเป้าหมายชนิดยืนร่ายที่ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์ เช่น Legion Commander / Pudge / Shadow Shaman / Bane
Black King Bar เป็นไอเท็มที่ควรออกในรูปเกมส์ที่ฮีโร่ศัตรูมีสกิลประเภทหยุด หรือ สตั้น เป็นวงกว้าง (AoE) มากกว่า 2 ตัว เช่น Earthshaker / Tiny / Treant Protector / Centaur Warrrunner / Elder Titan / Tidehunter / Underlord /Naga Siren / Diruptor / Invoker / Winter Wyvern
Heart of Tarrasque เป็นไอเท็มที่ควรออกในกรณีที่โศัตรูมีสกิล หยุด หรือ สตั้นที่ทะลุผ่านการป้องกันเวทโดยสมบูรณ์แบบวงกว้าง (AoE) เป็นเวลานาน เช่น Enigma / Magnus / Faceless Void
Assault Cuirass เป็นไอเท็มที่ควรออกในกรณีที่ต้องเข้าไปปะทะตรงๆเป็นเวลานาน หรือศัตรูเป็นฮีโร่ประเภทดาเมจกายภาพ (Physical) ที่รุนแรง เช่น Sladar / Chaos Knight / Drow Ranger / Juggernaut / Sniper / Templar Assassin / Luna / Shadow Fiend / Phantom Assassin / Weaver / Terrorblade / Tiny / Sven / Clinkz / legion Commander
Weak against & Strong against
ฮีโร่ที่เสียเปรียบ
Axe เป็นฮีโร่ที่กดดันเลน Anti-mage ได้มากในช่วงต้นเกมส์ด้วยสกิล Counter Helix
Bloodseeker เป็นฮีโร่ที่ไม่ใช้มานาในการต่อสู้ในเลนช่วงต้นเกมส์ ด้วยสกิล Bloodrage อีกทั้งเมื่อ Anti-mage เหลือพลังชีวิตต่ำกว่า 25% จะทำให้เห็นจากศัตรูใน Mini-map ด้วยสกิล Thrist พร้อมทั้งสกิล Rupture ที่ทำให้ Anti-mage ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
Disruptor เป็นซัพพอร์ตที่แก้ทาง Anti-mage ด้วยสกิลคอมโบ ทั้ง 4 สกิล ที่จัดการกับความคล่องตัวของ Anti-Mage โดยเฉพาะสกิล Glimpse ที่ทำให้ Anti-mage กลับมาอยู่จุดเดิมก่อนหน้า 4 วินาที
Doom ด้วย Ultimate skill ของ Doom ทำให้ Anti-mage ไม่สามารถใช้งานไอเท็มและสกิลได้
Meepo สามารถใช้สกิล Earthbinds หยุดการเคลื่อนไหวและสกิลเคลื่อนที่ทำให้สกิล Blink ใช้งานไม่ได้
Legion Commander ด้วยสกิล Duel ที่ทำให้ Anti-mage ถูกตรึงอยู่กับที่พร้อมทั้งยังไม่สามารถใช้สกิลและไอเท็มได้ในระหว่าง Duel
Phantom Assassin ด้วยสกิล Blur ที่ทำให้ Anti-mage มีโอกาศโจมตีพลาดถึง 50% และสามารถใช้สกิล Phantom Strike ไล่ตาม Anti-mage หลังจาก Blink หนีได้ อีกทั้งสกิล Coup de Grace ที่ทำให้ Anti-mage ไม่สามารถปะทะโดยตรงเป็นเวลานานได้
Night Stalker ด้วยสกิล Crippling Fear ที่ให้ติดสถานะใบ้นานถึง 8 วินาทีในช่วงเวลากลางคืน และเมื่อมีไอเท็ม Aghanim's Scepter จะทำให้ Night Stalker มองข้ามสิ่งกีดขวางในเวลากลางคืน
Sladar ด้วยสกิล Corrosive Haze ที่ทำให้ค่าเกราะลดลง และเห็นการเคลื่อนไหวของ Anti-mage
Shadow Demon ด้วยสกิล Disruption ทำให้ Anti-mage ถูกจับอยู่ที่เป็นเวลา 2.5 วินาที อีกทั้งสกิล Disruption จะสร้างร่างปลอม Anti-mage มา 2 ร่าง ที่มีสกิลติดตัวเหมือน Anti-mage ทำให้ถูกเผาผลาญมานาเอง
Outworld Devourer ถึงจะเป็น Hard Carry สาย Int แต่ด้วยสกิล Arcane Orb's ที่ทำดาเมจโดยตรง เลยทำให้ สกิลติดตัว Spell Shield ไม่มีผล และด้วยสกิล Acane Orb's เมื่อคอมโบกับสกิล Essence Aura จึงทำให้มานา Outwaorld devourer หมดได้ยากมาก
Bounty Hunter ทำให้ถูกเปิดเผยตำแหน่งจากสกิล Track
Bane ด้วยสกิล Nightmare และ Feind's Grip's ทำให้ Anti-mage ถูกจับตรึงอยู่กับที่เป็นเวลานาน
Sven ด้วยสกิล Great Cleave ทำให้เคลียร์ร่างปลอม Anti-mage จาก Manta Style ได้ง่าย อีกทั้งสกิล God's Strength ที่ทำให้ Sven ดาเมจสูงมาก จึงยากที่จะปะทะโดยตรง
Tiny เมื่อได้ไอ้ท็ม Blink สามารถคอมโบ Avalanche และ Toss ฆ่า Anti-mage ในช่วงต้นเกมส์ที่ยังมีค่าพลังชีวิตน้อยและสกิลติดตัว Craggy Exterior ที่ทำให้ Anti-Mage ติดสตั้นขณะโจมตี Tiny อีกทั้งเมื่อ Tiny มีไอเท็ม Aghanim's scepter ทำให้เคลียร์ร่างปลอมได้ง่าย
Huskar เป็นฮีโร่ที่ไม่พึ่งมานาในการต่อสู้ แนะมักนำมารับมือ Anti-mage ช่วงต้นเกมส์ในรูปแบบ Tri-lane ด้วยสกิล Burning Spear ที่ทำดาเมจเวทมนต์ต่อวินาทีได้รุนแรงมากในช่วงต้นเกมส์ที่ Anti-mage ยังมีค่าพลังชีวิตต่ำอยู่
Kunkka ด้วยสกิล X Marks The Spot ทำให้ Anti-mage ไม่สามารถ Blink หนีได้จนกว่าจะหมดระยะเวลาของ X Marks The Spot
Terrorblade เป็น Hard Carry สาย Agi ที่ Anti-mage รับมือได้ยากมาก ด้วยจำนวนร่างปลอมที่มากกว่าจากสกิล Conjure Image และไอเท็ม Manta Style อีกทั้งสกิล Reflection ที่จะสร้างร่างปลอมของ Anti-mage ทำให้โดนเผาผลาญมานาเอง
Troll Warlord เป็น Hard Carry สาย Agi ที่ไม่พึ่งมานาในการต่อสู้ และการโจมตีหลักของ Troll Warlord คือการโจมตีรูปแบบกายภาพ (Physical) ที่เร็วที่สุดในเกมส์ ทำให้ไม่สามารถปะทะโดยตรงเป็นเวลานานได้
Phantom Lancer เป็น Hard Carry สาย Agi ที่ได้เปรียบ Anti-Mage ในเรื่องจำนวนร่างปลอมที่มากกว่า และไอเท็มหลักของ Phantom Lancer คือ Diffusal Blade ที่ทำให้ความเร็วในการเผาผลาญมานาไวกว่า Anti-mage จึงทำให้ไม่สามารถปะทะโดยตรงเป็นเวลานานได้
Shadow Shaman ด้วยสกิล Hex และ Shackles ทำให้ Anti-mage ถูกตรึงอยู่กับที่เป็นเวลานานมาก
Riki สามารถใช้สกิล Cloak And Dagger ล่องหนเข้ามาหา Anti-mage เพื่อใช้สกิล Smoke Screen ทำให้ติดสถานะใบ้ (Silence)
ฮีโร่ที่ได้เปรียบ
Ancient Apparition เป็นซัพพอร์ตที่ไม่มีสกิลหลบหนี และ เปราะบางมาก
Arc Warden เป็น Hard Carry สาย Agi ที่ Anti-mage สามารถ Blink ไปในสกิล Magnetic Field ระยะประชิดเพื่อฆ่าได้ง่าย
Clockwerk สกิล Power Cogs ไม่สามารถขัง Anti-mage ได้ อีกทั้ง Anti-mage สามารถ Blink เข้าไปใน Power Cogs เพื่อฆ่าได้
Elder Titan ด้วยสกิล Echo Stomp และ Earth Splitter เป็นสกิล Cast Times (สกิลยืนร่าย) จึงทำให้ใช้ Blink หลบได้ง่าย
Medusa เป็น Hard Carry สาย Agi ที่แข็งแกร่งด้วยสกิล Mana Shield แต่ Anti-mage สามารถจัดการกับมานาของ Medusa ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งสกิล Stone Gaze สามารถหลบหนีได้ง่ายด้วยสกิล Blink
Morphing เป็น Hard Carry สาย Agi ที่ต้องพึ่งมานาในการใช้สกิล Morph Agi - Str ตามสถานการณ์ตลอดเวลา
Pugna เป็นฮีโร่สาย Int ที่มีมานาสูงแต่ไม่มีสกิลหลบหนี อีกทั้งเมื่อ Pugna ใช้สกิล Decrepify ใส่ตัว Pugna เอง จะทำให้ดาเมจสกิล Mana Void รุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก และ Anti-mage สามารถลบล้างสกิล Decrepify ได้ด้วย Manta Style ทั้งยังหลบหนีสกิล Life Drain ได้ด้วย Blink อย่างง่ายดาย
Phoenix สกิลส่วนใหญ่ของ Phoenix เป็นเวทมนตร์ ทำให้สร้างความเสียหายกับ Anti-mage ได้น้อยมาก อีกทั้งสกิล Supernova ที่เป็นการร่ายสกิลอยู่กับที่ทำให้ Anti-mage สามารถ Blink เพื่อเข้าไปโจมตีหรือหลบหนีได้ง่าย
Lich เป็นซัพพอร์ตที่มีมานาสูงแต่ไม่มีสกิลหลบหนี
Crystal Maiden เป็นซัพพอร์ตที่เดินช้า และ เปราะบางมาก อีกทั้ง Anti-mage ยังสามารถใช้ไอเท็ม Manta Style เพื่อลบล้างสกิล Frostbite และ Blink เข้าไปฆ่าได้ง่าย
Storm Spirit เป็นฮีโร่สาย Int ที่มีมานาค่อนข้างสูงและใช้มานาเป็นหลักในการต่อสู้และเคลื่อนที่เกือบตลอดทั้งเกมส์ด้วยสกิล Ball Lightning ทำให้ง่ายต่อ Anti-mage ในการใช้สกิล Mana Void
Necrophos เป็น Semi-Carry ที่มีมานาค่อนข้างสูงทั้งยังสกิลส่วนใหญ่เป็นเวทมนต์และใช้มานาต่อสู้เป็นหลัก
Oracle เป็นซัตพอร์ตที่เปราะบางและใช้มานาตลอดทั้งเกมส์ในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม
Leshrac เป็นฮีโร่สาย Int ที่มีมานาค่อนข้างสูงและใช้มานาในการต่อสู้เป็นหลักตลอดทั้งเกมส์
Spectre เป็น Hard Carry สาย Agi ที่มีความคล่องตัวด้วยสกิล Spectral Dagger แต่เป็นสกิลที่ต้องใช้มานาค่อนข้างมาก เพราะ Spectre เป็น Hard Carry ที่มีมานาค่อนข้างน้อย อีกทั้งไอเท็มหลักของ Spectre คือ Radiance ที่ทำดาเมจประเภทเวทมนตร์ต่อวินาที ทำให้สกิลติดตัว Spell Shield ของ Anti-mage ช่วยลดดาเมจของ Radiance ลดลงเป็นอย่างมาก
Nature's Prophet มีสกิล Sprout สามารถใช้ Battle Fury ตัดต้นไม้เข้าไปฆ่าได้ หรืออาจใช้ Blink เพื่อหนีออกจากสกิล Sprout ได้อย่างง่ายดาย
Undying เป็นฮีโร่สาย Str ที่พึ่งมานาในการต่อสู้ อีกทั้ง Anti-mage สามารถ Blink เข้าไปจัดการกับ Tombstone ได้ง่าย
Venomancer เป็นฮีโร่ที่ทำดาเมจประเภทเวทมนตร์ต่อวินาที ที่ทำดาเมจต่อวินาทีได้ค่อนข้างเบากับ Anti-mage เนื่องจากสกิลติดตัว Spell Shield
Tinker เป็นฮีโร่สาย Int ที่ดาเมจส่วนใหญ่เป็นเวทมนตร์ ที่ใช้มานาในการต่อสู้ตลอดทั้งเกมส์ และเป็นฮีโร่ที่เปราะบาง
Queen of Pain Queen of Pain เป็นตัวนูคที่ถึงแม้จะมีสกิล Blink แต่ก็เป็นฮีโร่ที่ค่อนข้างเปราะบาง และใช้มานาในการต่อสู้เป็นหลัก ทำให้ Anti-Mage สามารถใช้สกิล Blink ไล่ล่าหรือเข้าโจมตีโดยตรงได้ง่าย
Timbersaw เป็นฮีโร่สาย Str ที่มีมานาค่อนข้างสูงที่ใช้มานาในการเคลื่อนที่และต่อสู้ตลอดทั้งเกมส์
Slark เป็นฮีโร่สาย Agi ที่ถึงแม้จะใช้สกิลที่มีมานาและคูลดาวน์ค่อนข้างต่ำ แต่ Slark เป็นฮีโร่ที่ใช้มานาเพื่อเพิ่มความคล่องตัวตลอดเวลา
Wraith King เป็นฮีโร่สาย Str ที่มีมานาค่อนข้างต่ำแต่ต้องพึ่งมานาในการใช้สกิล Reincarnation
Shadow Fiend เป็นฮีโร่สาย Agi ที่ไม่มีสกิลหลบหนี อีกทั้งสกิล Requiem of Souls ต้องใช้ระยะเวลายืนร่ายสกิล ทำให้สามารถ Blink หนีได้ง่าย
Bristleback เป็นฮีโร่สาย Str ที่ถึงแม้จะใช้สกิลที่มีมานาและคูลดาวน์ค่อนข้างต่ำ แต่มีมานาค่อนข้างต่ำ และต้องใช้สกิล Quill Spary และ Viscous Nasal Goo ตลอดเวลาเพื่อให้ติดสถานะ Warpath
Nyx Assassin เป็นฮีโร่ที่พึ่งมานาในการยืนเลนและใช้มานาในการต่อสู้ตลอดทั้งเกมส์
Clinkz เป็นฮีโร่สาย Agi ที่ใช้มานาจากสกิล Searing Arrows ตลอดเวลา อีกทั้ง Clinkz ยังต้องใช้มานาสกิล Skeleton Walk เพื่อหลบหนี เมื่อไม่มีมานา Clinkz จะเสียความคล่องตัวเป็นอย่างมาก
Zeus เป็นฮีโร่ที่มีสกิลรูปแบบเวทมนทตร์ทั้งหมด อีกทั้งไม่มีสกิลหลบหนี
Anti-Mage
Reviewed by Unknown
on
กรกฎาคม 10, 2560
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น